ศูนย์ LifeVantage

ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ LifeVantage : Protandim Nrf1 / Nrf2 / ProBio / TrueScience / TrueRenew ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ โทร ☎️ :: 084-110-5021 📍 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line ค่ะ

18 ธันวาคม 2553

มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ( Mark Zuckerberg )

ไทม์ ยก มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก( Mark Zuckerberg )เป็นบุคคลแห่งปี





มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook






 

วิดีโอ YouTube




มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook
ที่มา  :   freewebs.com , นิตยสายไทม์
         ถือเป็นบุคคลที่โด่งดังที่สุดในรอบปีนี้เลยทีเดียว สำหรับ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก (Facebook) ที่กลายเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมที่มีคนเข้าใช้บริการมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกไปแล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรอบปีที่ผ่านมา เว็บไซต์เฟซบุ๊ก ได้เป็นที่นิยมจนประสบความสำเร็จถึงขีดสุด จนทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก และทำให้ผู้คนทั่วโลก ให้ความสนใจและอยากทำความรู้จักกับผู้ก่อตั้งเครือข่ายออนไลน์แห่งนี้

และด้วยความสำเร็จที่ทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดในโลกนี้เอง ทำให้เรื่องราวของ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ได้รับการถ่ายทอดผ่านสื่อมวลชนทุกประเภท ไม่ว่าในวงการอินเทอร์เน็ต หรือในจอทีวี สื่อทุกสื่อต่างจ่อคิวรอสัมภาษณ์เศรษฐีหนุ่มคนนี้ จนทำให้วิถีชีวิตของ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก มีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นไปอีก เพราะนอกเหนือจากการดูแลและพัฒนาเว็บไซต์เฟซบุ๊กแล้ว เขาก็ยังต้องปลีกตัวไปให้สัมภาษณ์นิตยสารต่าง ๆ และรายการโทรทัศน์อีกหลายรายการ ในที่สุด จากการทำงานอยู่เบื้องหลัง มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ก็กลายมาเป็นคนดังที่ได้รับความสนใจยิ่งกว่าดาราคนไหนเสียอีก ยิ่งล่าสุด ได้มีการนำเรื่องราวชีวิตของเขาไปถ่ายทอดในรูปแบบของภาพยนตร์เรื่อง The Social Network ก็ถือเป็นการตอกย้ำความโด่งดังของเศรษฐีหนุ่มคนนี้มากขึ้นไปอีก จนทุกวันนี้ ก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก คนนี้อย่างแน่นอน

        


 

วิดีโอ YouTube



         เมื่อได้รับการเอ่ยถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอย่างต่อเนื่องแบบนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เป็นผู้ที่ได้รับความสนใจและมีอิทธิพลมากที่สุดในขณะนี้เลยทีเดียว จนล่าสุด นิตยสารไทม์ (TIME) นิตยสารยอดนิยมในสหรัฐฯ ก็ได้ยกย่องให้ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เป็นบุคคลแห่งปี 2010 นี้ไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาเป็นผู้เปลี่ยนวิถีชีวิตผู้คนทั่วโลก ด้วยการสร้างระบบเชื่อมโยงคนกว่า 500 ล้านคน ให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร เมื่อไร และเรื่องราวของเขาก็ได้รับการตีพิมพ์อีกครั้ง ในนิตยสารไทม์ฉบับสุดท้ายแห่งปีซึ่งเป็นฉบับที่ได้รับความสนใจมากที่สุด



         สำหรับ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เป็นเศรษฐีหนุ่มวัย 26 ปี ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย จากการก่อตั้งและพัฒนาเครือข่ายออนไลน์ facebook.com เขาเริ่มก่อตั้งเว็บไซต์

วิดีโอ YouTube

Facebook.com เมื่อ 7 ปีก่อน ขณะที่เขาอายุได้เพียง 19 ปี และยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดอยู่ในขณะนั้น แต่แล้วหลังจากที่เขาเห็นแววว่า เฟซบุ๊กจะได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจจากวัยรุ่น เขาก็ได้หยุดเรียนกลางคัน เพื่อออกมาพัฒนาเว็บไซต์เฟซบุ๊กร่วมกับเพื่อน 



        หลังจากนั้นเพียง 2 ปี เว็บไซต์เฟซบุ๊กก็เริ่มมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเข้าถึงข้อมูล รูปถ่าย และติดตามความเป็นไปของสมาชิกแต่ละคนได้อย่างสะดวก จนในที่สุด เว็บไซต์เฟซบุ๊ก ก็กลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง และเป็นเครือข่ายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีผู้ใช้บริการไปแล้วกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก โดยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และมันสร้างรายได้ให้กับ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก อย่างมากมาย จนบริษัทออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Yahoo ถึงกับเสนอซื้อกิจการของเขาด้วยเงินกว่า 5 หมื่นล้านบาท แต่ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ก็ปฏิเสธไป ก่อนที่บริษัทยักษ์ใหญ่ Google จะเข้ามายื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการ 

วิดีโอ YouTube

วิดีโอ YouTube

Facebook.com  ไปไว้ในครอบครองอีกรายด้วยมูลค่าสูงลิ่วถึงเกือบ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่ง มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ก็ยังคงมีท่าทีว่าจะปฏิเสธไปอีกครั้ง

 



มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง Facebook


         นอกเหนือจากความร่ำรวยของมหาเศรษฐีที่รวยเร็วที่สุดในโลกคนนี้แล้ว สิ่งที่ทำให้เขาได้รับความสนใจและเป็นที่ชื่นชมอย่างมากมายอีกอย่างหนึ่ง คือการบริจาคเงินก้อนใหญ่เพื่อช่วยเหลือสังคมมาแล้วมากมาย เช่น การบริจาคเงินกว่า 3 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาการศึกษาในโรงเรียนในสหรัฐฯ โดยเขาให้เหตุผลว่า ยังมีเด็กหลายคนที่ควรได้รับการศึกษาที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากให้เด็ก ๆ ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีที่สุด เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคมต่อไป
         ทั้งนี้ นิตยสารไทม์ ยังจัดอันดับอีก 4 บุคคลแห่งปีที่เป็น 1 ใน 5 ของมีอิทธิพลต่อสังคมที่สุดในปีนี้ ซึ่งได้แก่ สตีฟ จ็อบส์ ผู้บริหารบริษัท Apple, จูเลียน อาสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์, ที ปาร์ตี้ กลุ่มคนผู้ออกมาต่อต้านประธานาธิบดีบารัก โอบามา และคนงานที่ติดอยู่ในเหมืองชิลีในเหตุการณ์เหมืองชิลีถล่มเมื่อเดือนสิงหาคนที่ผ่านมา

วิดีโอ YouTube

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น