ศูนย์ LifeVantage

ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ LifeVantage : Protandim Nrf1 / Nrf2 / ProBio / TrueScience / TrueRenew ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ โทร ☎️ :: 084-110-5021 📍 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line ค่ะ

06 มกราคม 2555

20 ลัทธิทะลุโลก

                   20 ลัทธิทะลุโลก



20.ลัทธิพี่น้องผองผีดูดเลือด
Vampire Clan

เรื่องราวการดูดเลือด(คน) นั้นยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจของคนหลายคนที่เชื่อว่าเลือดคนนั้นเป็นสารอาหารที่มีสรรพคุณมากมาย มีหลายลัทธิที่มีพิธีกรรมดื่มเลือด(คน)มากมาย หนึ่งในนั้นคือลัทธิ “ตระกูลผีดูดเลือด” ซึ่งเป็นลัทธิที่ก่อตั้งโดยร็อด เฟอร์เรล(เกิด 28 มีนาคม 1980) ที่ได้รับสมาชิกส่วนใหญ่ที่เป็นวัยรุ่นตั้งเป็นลัทธิในปี 1998 โดยมีเขาเป็นศาสดาทั้งๆ ที่เขาอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น โดยลัทธินี้มีพิธีกรรมคือการเจาะเลือดของคนในลัทธิมาแลกกันดื่มและแลกคู่กันเสพสม

ร็อด เฟอร์เรล ชาวอเมริกัน ตั้งตัวเป็นศาสดาตั้งแต่อายุได้ 16 ปี เขาตั้งชื่อลัทธิของเขาว่า "มนต์ผีดูดเลือด" มีหลักอยู่ว่า ต้องเจาะเลือดของคนในลัทธิมาแลกกันดื่มและแลกคู่กันเสพสม มีผู้ถูกเฟอร์เรลหลอกให้ลงมือสังหารไป 2 ศพในรัฐเคนตักกี เฟอร์เรลหลอกสาวกว่าเขาคือ "เวกัสโซ" จอมแวมไพร์ที่มีอายุยืนยาวมากว่า 500 ปีมาแล้ว เฟอร์เรลร่วมกับ ฮีทเธอร์ เวนดอร์ฟ สาวกสาวบุกเข้าไปในบ้านขอเวนดอร์ฟเอง ลงมือใช้ชะแลงตีและแทงพ่อแม่จนตาย แล้วพากันหนีไปลงมือสังหารพ่อแม่ของตัวเอง หลบหนีไปซ่อนตัวแต่ถูกตำรวจจับกุม ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่สาวกของเขาพยายามเผยแพร่ลัทธิไปทั่วสหรัฐฯ แม้แต่ออสเตรเลียเองก็มีการติดตามทำลายล้างให้สิ้นซาก


ร็อด เฟอร์เรล เจ้าลัทธิ







19. ลัทธิขบวนการสร้างสรรค์
Creativity Movement

แมท เฮลเริ่มเป็นศาสดาลัทธิขบวนการสร้างสรรค์ โดยประกาศว่าเป็นลัทธิที่นิยม "อหิงสา" แต่อันที่จริงคือ การเหยียดผิว เขาประกาศต่อต้านชาวต่างชาติและพวกเกย์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู สาวกของลัทธิถูกล้างสมองให้ประกอบอาชญากรรมต่อปฏิปักษ์ สาวกระดับสูงถูกตัดสินจำคุกในข้อหาฆาตกรรมคนผิวดำและสตรีชาวเกาหลีใต้ กับทำร้ายชาวยิวปางตายไปอีก 9 คน เจ้าลัทธิเองก็ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุก 40 ปีด้วยข้อหาจ้างวานตำรวจนอกแถวให้สังหารผู้พิพากษา ผู้กระทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับลัทธิของตัวเอง และยังถูกกล่าวหาวามีส่วนรู้เห็นในการสังหารสามีกับมารดาของผู้พิพากษาคนดัง กล่าว ปัจจุบันลัทธิอุบาทว์นี้ถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก เพราะขัดต่อกฎหมายของสหรัฐอเมริกา

นี้คือบางส่วนของ 16 บัญญัติของลัทธิความคิดสร้างสรรค์

-เป้าหมายของคือการสร้างดินแดนศักดิ์สิทธิที่มีแต่คนขาวเท่านั้น

-ศัตรูที่น่ากลัวและอันตรายที่สุดของเราคือชาวยิว

-ทำลายและขับไล่ทุกคนที่คิดว่าเป็นชาวยิวและอิทธิพลออกไปจากสังคม

แมท เฮล เจ้าลัทธิ








18.ลัทธิมอร์มอนใหม่
Jeffrey Lundgren

เจฟฟรีย์ ลุนด์เกรน(เกิด 3 พฤษภาคม 1950) เป็นเจ้าลัทธิ ที่เขาก่อตั้งในปี 1984 ในบ้านพักบนถนน ชิลลิโคเท โอไฮโอ โดยใช้หลักคำสอนผิดๆ โดยเขาประกาศว่าเขาได้ยินเสียงพระเจ้าให้เขาเผยแพร่ "คำพยากรณ์สุดท้ายแห่งพระเจ้า" นำสาวกไปต้อนรับการเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ของพระคริสต์เจ้า (โดยเขาย้ายที่อยู่ไปเรื่อย)มีหลายคนเชื่อเขาและขอเป็นสาวก ซึ่งเขาขอเงินจากผู้สนับสนุนหลายคนยินดีออนเงินจนได้หลายพันดอลลาร์ และเขาก็มีหลายคดีในการฆาตกรรรมสังหารล้างครัวเดนนิส อาเวรี หนึ่งในสาวกของเขาเองที่ไม่สนับสนุนและขัดขวางเขาโดยเขาและสาวกได้ใช้อาวุธปืนยิงเดนนิสกับภรรยาและลูกสาวของเขารวม 5ศพอย่างโหดเหี้ยม สุดท้ายเขาเสียชีวิตเมื่อ 24 ตุลาคม 2006 จากการถูกพิพากษาประหารชีวิต แต่คำสอนของเขายังอยู่ และได้รับการเผยแพร่อย่างลับๆ ตลอดมา


เจฟฟรีย์ ลุนด์เกรน เจ้าลัทธิ





17. ลัทธิครอบครัวเดียวกัน
Charles Manson and The family


ชาร์ลส แมนสันเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1934 เป็นเด็กที่เต็มไปด้วยปัญหา เขาก่ออาชญากรรมเล็กๆ น้อย เข้าคุกเป็นว่าเล่น เมื่อออกจากคุกเขาหันมาเป็นพวกฮิปปี้ และได้รวบรวมกลุ่มคนโดยใช้ชื่อลัทธิว่า “แมนสันและครอบครัว” โดยเขาได้พูดถึงวันสิ้นโลกไว้ว่า "ในไม่ช้าจะเกิดสงครามระหว่างคนขาวกับคนดำจะเกิดขึ้น มันจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่สงครามปรมาณู คนดำจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เนื่องจากพวกมันไม่มีความสามารถในการปกครอง แมนสันและครอบครัวโดยมีข้าเป็นผู้นำจะเป็นเชื้อสายบริสุทธิ์เพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอด และกลายเป็นผู้ปกครองโลกตลอดกาล"

ฟังดูไร้สาระ แต่ในเมื่อชาร์ลสเชื่อ สาวกก็เชื่อด้วย จากตรงนี้เองที่พวกเขาเริ่มคิดถึงการก่ออาชญากรรมแล้วป้ายความผิดให้กับคนผิวดำเพื่อให้สงครามเกิดขึ้นเร็วๆ และกำจัดบุคคลที่เขาขัดขวางพวกเขา ส่งผลทำให้มีผู้เป็นเหยื่อของลัทธินี้หลายราย และบางรายถูกฆ่าอย่างทารุณ โดยกรณีดังที่สุดคือ ในวันที่ 8 สิงหาคม 1969ภรรยากำกับหนังคนดังชื่อ โรมัน โปแลนสกี้และดาราสาว ชื่อ ชารอน เทท อายุ26 ปี และเพื่อนที่มาร่วมงานดินเนอร์แบบเป็นกันเอง 3 คน ถูกสาวกของชาร์ลสก็ฆ่าทุกคนตายเรียบ แต่ชารอน เททหนักสุด เพราะเหล่าสาวกรุมแทงเธอถึง 16 แผล จากนั้นก็ใช้มีดผ่าท้องของเธอจนเหวอะหวะ และถูกไม้ตีที่ศีรษะซ้ำยังไม่สะใจ พวกมันจับเธอ มัดโยงกับเพดานแขวนไว้ พวกมันตัดเต้านมของเธอทิ้งทั้งเป็น แล้วใช้มีดเล่มนั้นชำแหละกรีดตั้งแต่บริเวณยอดอก จนถึงหัวหน่าวเลือดสดๆของเธอกระจายเต็มบ้าน มิหนำซ้ำ ยังใช้แปลงจุ่มเลือดเขียนคำว่า "PIG"ตัวโตไว้ที่บานประตูบ้านสุดท้ายในวันที่ 13 เดือนธันวาคม 1969 ทั้งหมดถูกจับได้ยกลัทธิรวมทั้งชาร์ลส์ แมนสัน

ทุกวันนี้ ชาร์ลส์ แมนสัน ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในคุก ที่แคลิฟอร์เนีย และบรรดาสาวกก็แก่เป็นคุณปู่ คุณยายไปหมดแล้ว แต่กระนั้นก็มีเหล่าบรรดาสาวกใหม่ของชาร์ลส์ที่มีทั้งของแท้และของเทียมและแฟนพันธุ์แท้ที่ยังเชื่อคำสอนของเขายังคงมีอิทธิพลอยู่ในเจ้าลัทธิต่างๆ ในปัจจุบัน

ชาร์ลส์ แมนสัน เจ้าลัทธิ






16.โอมชินริเคียว
Asahara and the Aum Supreme Truth


โชโกะ อาซาฮารา เป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนาบังหน้า ก่อตั้งลัทธิที่มีชื่อว่า "โอมชินริเคียว" ในปี ค.ศ.1984 เขาเผยแพร่คำสอน จนมีผู้เข้ามาเป็นสาวกทั้งในญี่ปุ่นและนอกประเทศกว่า 49,000 คน เขาเริ่มแสดงความโหดเ้ยมเมื่อต้องสงสัยว่า อยู่เบื้องหลังการสังหารสาวกที่ตีตัวออกห่าง เพื่อปิดปากก่อนจะนำความในไปเปิดเผย อยู่เบื้องหลังการปล่อยแก๊สซารินในเมืองมัตสึโมโต เป็นเหตุให้มีคนตายไป 8 คน เมื่อตำรวจเริ่มสอบสวนคดีใกล้ตัวอาซาฮาราเข้าไปทุกที อาซาฮาราก็สั่งให้สาวกปล่อยแก๊สซารินในสถานีรถไฟใต้ดินในมหานครโตเกียว 5 สาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 12 คน บาดเจ็บ 54 ราย หลายรายพิการตาบอด ตำรวจบุกเข้าทลายสำนักงานใหญ่ของโอมชินริเคียว พบวัตถุระเบิด สารเคมี อาวุธเคมี และเฮลิคอปเตอร์ทำในรัสเซียเพื่อเตรียมไว้โปรยอาวุธเคมีสังหารผู้คน ที่นับว่าขหัวลุกคือ แก๊สซารินจำนวนมากพอที่จะฆ่าคนได้ถึง 4,000,000 คน อาซาฮาราถูกจับกุมดำเนินคดี สาวกที่เหลือแปลงรูปไปเป็นลัทธิอเล็ป ซึ่งยังคงเผยแพร่ลัทธิอย่างลับๆ

โชโกะ อาซาฮารา เจ้าลัทธิ





15.ลัทธิประตูสวรรค์
Heaven’s gate

มาร์แชลล์ แอปเปิลไวท์ ศาสดาเจ้าลัทธิประตูสวรรค์สอนให้สาวกรู้ว่า มนุษย์หาได้มาจากการสร้างของพระเจ้า หากแต่มาจากพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์ต่างดาว เมื่อคลอดบุตรธิดาออกมาแล้วก็ปล่อยให้เจริญเติบโตอยู่บนโลก และจะนำยานอวกาศมารับบรรดาทายาท เพื่อเดินทางไปยังดาวต้นกำเนิดที่อยู่ด้านหลังของดาวหาง เฮล-บ็อบ มีสาวกมารวมตัวกัน 38 ราย ต่างเรียกร้องให้ศาสดาติดต่อเรียกบรรพบุรุษนำยานอวกาศมารับ แอปเปิลไวท์บอกว่า หากจะไปเร็วต้องไปด้วยวิญญาณ ว่าแล้วก็เอาวอดก้าผสมยาพิษชนิดร้ายแรงให้ดื่ม ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง ตำรวจนอร์ธควีนส์แลนด์เข้าไปพบก็ต่อเมื่อสาวก 38 คนกับศาสดานอนตายแหงแก๋รวม 39 ศพ

มาร์แชลล์ แอปเปิลไวท์ เจ้าลัทธิ






14. ลัทธิคำสอนแห่งวิหารสุริยา
Order of the Solar Temple


หลังจากก่อตั้งลัทธิเผยแร่คำสอนที่ทำให้สาวกทุกคนเชื่อว่า ตนเองคืออัศวินแห่งเทมพลาร์ในศตวรรษที่ 14 ในปี ค.ศ.1984 ลุค จูเรต์ ผู้ป่วยโรคจิตชาวสวิส ก็กลายเป็นศาสดาที่มีสาวกเป็นจำนวนมาก อาการทางประสาทของจูเรต์เริ่มถึงขีดสุดในปี ค.ศ.1994 เมื่อจูเรต์ถือดาบกวัดแกว่งไปมาแล้วแทงทารกวัย 3 เดือนตายคาที่ โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์มาเกิดต่อหน้าผู้เป็นบิดามารดา อีก 15 วันต่อมา จูเรต์ก็เอายาพิษผสมเครื่องดื่มให้สาวกคนสนิท 15 คนกินจนชักพะงาบๆ ผู้ไม่ดื่มก็ถูกยิง หรือไม่ก็ถูกรมควันจนสำลักตาย เมื่อตำรวจบุกเข้าไปก็พบแต่ศพเกลื่อนสำนักไปหมดนับได้ 75 ศพ มีทั้งที่ฆ่าตัวตายและถูกฆาตกรรม รวมทั้งตัวจูเรต์ก็กลายเป็นศพไปด้วย

ภาพจากเหตุการณ์จริง






13.ลัทธิกิ่งก้านแห่งดาวิเดียน
Branch Davidians

เดวิด โคเรช ผู้ก่อตั้งลัทธิกิ่งก้านแห่งดาวิเดียนได้สั่งสอนสาวกว่า ตัวศาสดากับสาวกทั้งปวงล้วนเกิดมาในยุคแห่ง "อมาเกดอน" อันเป็นวันที่พระเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่า เป็นวันวิบัติของโลก โดยโคเรชได้เผยกับเหล่าสาวกว่า ตนเองก็อวตารแห่งพระคริสต์ เขานิยมการแต่งงานกับเด็ก และมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่อยู่กินเป็นภรรยาหลายคนด้วยกัน มีการตบตีทารุณต่อเด็กและสตรี มีการสะสมอาวุธสงครามไว้ภายในสำนักมากมาย
เอ ฟ.บี.ไอ. รวบรวมหลักฐานจนสามารถเอาผิดกับเจ้าลัทธิได้ เมื่อได้เวลาอันสมควร เอฟ.บี.ไอ. จึงบุกเข้ากวาดล้างที่ทำการของกิ่งก้านแห่งดาวิเดียนในเมืองวาโค รัฐเท็กซัส เมื่อเอฟ.บี.ไอ.ประกาศให้มอบตัวก่อนจะยิ่งแก๊สน้ำตาเข้าไป เจ้าลัทธิสั่งสู้ตาย จากนั้นก็วางเพลิงเผาที่ทำการ เมื่อเหตุการณ์สงบ เอฟ.บี.ไอ. เข้าไปตรวจสอบพบตัวสาสดากับสาวกเป็นศพดำเป็นตอตะโกรวมกัน 82 ศพ สาวกคนสนิทที่รอดชีวิตมาได้แอบเผยแพร่คำสอนเพื่อฟื้นฟูสำนักขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ

เอฟ.บี.ไอ. บุกเข้ากวาดล้างที่ทำการของกิ่งก้านแห่งดาวิเดียน





12.ลัทธิฟื้นฟูพระบัญญัติ 10 ประการ พระวจนะแห่งพระเจ้า
Restoration of the 10 Commandments

เป็นลัทธิที่แหกคอกออกมาจากโรมันคาทอลิก เซิร์ช โดย นายโจเซฟ คิบเวเทียร์ นักการเมืองชาวอูกันดา โดยบอกกับเหล่าสาวกว่า พระมารดามารีอาได้ทรงปรากฎพระวรกายต่อหน้าของตัวเอง เขาย้ำกับสาวกอยู่เสมอ ว่า โลกจะแตกในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000 แต่เอาเข้าจริงปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิบเวเทียร์ก็เฉไฉไปว่า พระเจ้ายังไม่ทรงต้องการทำลายโลก แต่เลื่อนไปเป็นวันที่ 17 มีนาคม ปีเดียวกัน
ในวันที่ 17 มีนาคม คิบเวเทียร์ก็วางเพลิงเผาโรงนาอันเป็นที่ทำการและที่อยู่ร่วมกันของเหล่า สาวกทั้งหลาย หลังจากเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสำรวจพบศพผู้เสียชีวิตที่ถูกย่างสดดำ เป็นตอตะโกจำนวน 513 ศพ รวมทั้งศาสดาบ้าทะลุดโลกคิบเวเทียร์
ที่น่าสยดสยองมากไปกว่านั้นคือ การพบศพจำนวน 265 ศพถูกฝังไว้ใต้ดินในที่ดินที่นายคิบเวเทียร์ครอบครองอยู่แต่ละศพมีร่องรอย การถูกแทงไม่ก็ถูกวางยาพิษ รวมศพที่ตายด้วยน้ำมือของศาสดาบ้าทะลุโลกถึง 778 ศพด้วยกัน

โจเซฟ คิบเวเทียร์ เจ้าลัทธิ





11.ลัทธิโบสถ์แห่งมวลมนุษย์
The People’s Temple

จิม วอร์เรน โจนส์ ก่อตั้งลัทธิโบสถ์แห่งมวลมนุษย์ขึ้นในแอฟริกาใต้ เมื่อปี ค.ศ.1955 ต่อมาในปี ค.ศ.1970 ก็มีผู้เข้ามาเป็นสาวกถึง 2,000 คน โจนส์สอนให้ดำรงชีวิตแบบสังคมนิยม ปลูกผักเลี้ยงสัตว์บริโภคกันเอง โจนส์ซื้อที่ดินเพื่อก่อตั้งที่ทำการของลัทธิฯ รู้จักกันในชื่อ "โจนส์ทาวน์" เป็นเมืองปิดที่ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาวุ่นวาย
เหตุร้ายเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1978 ลีโอ รายอัน สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กับผู้สื่อข่าวได้เข้าไปที่โจนส์ทาวน์ รายอันได้แอบนำสาวกที่เปลี่ยนใจซ่อนตัวออกมาเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับ แต่ความแตก บรรดาสาวกที่บ้าคลั่งพากันขับรถตามมาสังหารรายอันกับสาวกที่แปรพักตร์และผู้ สื่อข่าวอีก 3 คนตายเกลี้ยง
วันรุ่งขึ้นหลังจากเกิดการฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ โจนส์รู้ดีว่า ทุกอย่างกำลังจะถึงจุดอวสาน ตำรวจไม่ปล่อยเอาไว้แน่ เขาเรียกประชุมสาวกทั้งหมด สั่งให้ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมไซยาไนด์อย่างแรงเพื่อฆ่าตัวตาย ผู้ปฏิเสธจะถูกยิง รัดคอ หรือไม่ก็ถูกจับฉีดไซยาไนด์เข้าเส้นเลือด โจนส์ระเบิดหัวตัวเองตายตามไป เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสำรวจพบว่ามีคนตายทั้งหมด 918 ศพ มีเด็กรวมอยู่ด้วย 270 คน

ภาพศพตายเกลื่อนที่เมืองโจนส์ทาวน์


10.Iglesia Maradoniana

คริสตจักรมาราโดน่า ใช่แล้วครับลัทธินี้เกิดขึ้นมาแล้วครับบนโลกของเรา เป็นลัทธิที่สร้างขึ้นเมื่อ 30 ตุลาคม 1998(วันเกิดของมาราโดนาอายุครบ 38) โดยแฟนๆ ฟุตบอลอาร์เจนตินาที่เทิดทูนดิเอโก มาราโดน่านักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนติน่าที่เชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่ดีตลอดกาลของพวกเขา และเปรียบเทียบมาราโดน่าเสมือนเทพเจ้าโดยใช้ชื่อ “D10S”(มาจากเสื้อหมายเลขสิบที่เขาสวมใส่ตอนเล่นทีมชาติ) ในเมืองโรซาริโอ ในปี 2001 พวกเขามีการชุมนุมครั้งแรกพบว่ามีคนร่วมงานถึง 80,000 -100,000 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนั้นยังมีบทบัญญัติสิบประการที่เกี่ยวกับมาราโดน่าด้วย เช่น ฟุตบอลคือความรักเหนือทุกสิ่ง(อย่างกับซึบาสะ), จงปกป้องสีธงชาติอาร์เจนตินา, เผยแพร่คำสั่งมาราโดน่าไปทั่วโลก, จงใช้ชื่อดิเอโกเป็นชื่อที่สองของคุณและลูกของคุณ, ทำตามคำสั่งสอนของคริสตจักรมาราโดน่า ฯลฯ







9.Ho No Hana

โฮ โน ฮาน่า(Ho No Hana Sanpogyo) เป็นลัทธินิกายของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งโดย Hogen Fukunaga ที่อ้างว่าเขาสามารถวินิจฉัยโรคได้โดยแค่ตรวจสอบที่เท้าของคนนั้นๆ เขาได้ก่อตั้งลัทธิในปี 1987 หลังจากนั้นเขาก็อ้างว่าได้รู้ถึงการเกิดใหม่ของพระเยซูคริสต์และพระพุทธเจ้า เขาอ้างว่ามีสมาชิก 30,000 คน อย่างไรก็ตามเขาได้เรียกเก็บเงินถึง 900 ดอลลาร์ในการอ่านเท้า จนทำให้หลายคนเชื่อว่าเขาหลอกลวงคนเอาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง เช่นเขาบอกว่า "เท้าของคุณบ่บอกว่าคุณกำลังจะตายนะ จะต้องจ่ายเงินประมาณเท่านี้แล้วเราจะต่อชีวิตให้" เขาถูกหาว่าโกงเงินจากแม่บ้านและถูกจับพร้อมกับปรับเงินถึง 2,120,000 ดอลลาร์เพื่อชดใช้ค่าเสียหายแก่สาวกกว่า 27 ชีวิตดังกล่าว(คงอารมณ์แบบเข้าทรงบ้านเรา)






8.Cargo cult

ลัทธิคาร์โก้(หมายถึงลัทธิบูชาเรือวิเศษ) เป็นลัทธิไสยศาสตร์ที่ชาวเกาะแห่งหนึ่งในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้(ได้แก่มาลานีเซียและเกาะโดยรอบ เช่นเทนน่า เวนูอาดู) จะพูดไงดีและ อืม เอางี้นะ คุณเคยเห็นคนบ้านนอกหลังเขาตื่นเต้นไหมครับเวลาเขามาแจกอะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน เช่นตื่นเต้นไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน ตื่นเต้นโทรศัพท์ ชนิดเรียกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน

ศาสนาคาร์โก้ก็เหมือนกันเป็นหลักปฏิบัติที่ปรากฏในสังคมดั้งเดิมในหลายเผ่าในการปฏิสัมพันธ์กับวัฒนธรรมตื่นเทคโนโลยีชั้นสูง ความนิยมการได้รับความมั่งคั่งทางวัสดุ(สินค้า) คาดว่าลัทธิเริ่มขึ้นในในช่วงชาวตะวันตกมาเยือนเกาะในศตวรรษที่ 19 ตอนนั้นชาวตะวันตกได้นำสินค้าแปลกๆ มาให้แก่ชาวเกาะชนิดที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน(คงจะพวกเครื่องเทศหรือเสื้อผ้ามั้ง??) ทำให้พวกเขาเกิดความเชื่อว่าบรรพบุรุษของพวกตนจะเดินทางกลับคืนสู่โลกนี้อีกครั้งด้วยเรือวิเศษ ซึ่งบรรทุกสินค้ามีค่ามหาศาลมาด้วย บรรพบุรุษผู้วิเศษเหล่านั้นจะมาช่วยปลดแอกให้พ้นจากการเป็นอาณานิคมของชนผิวขาว และช่วยสร้างสันติสุขถาวรให้พวกตนโดยถ้วนหน้า และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พิธีกรรมของศาสนาคาร์โก้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อเครื่องบินจากกองทัพญี่ปุ่นและอเมริกันมาแจกของให้แก่ชาวพื้นเมืองชาวเกาะ ซึ่งชาวเกาะชอบมันมาก และเมื่อสงครามโลกจบลงก็หยุดแจกของ ทำให้ชาวเกาะก็เริ่มทำลัทธิพิธีกรรมเพื่อเรียกนกเหล็ก(เครื่องบิน)จากฟ้าลงมา(หรือส่งสินค้าทางร่มชูชีพ)แจกของฟรีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นช่วงสงครามโลก ด้วยการสร้างลอกเลียนแบบสนามบิน ไม่ว่าจะหอคอยบังคับการ และทีมงานภาคสนามที่คอยโบกธง ทำสัญญาไฟ เปิดทางสำหรับวิ่ง และพวกเขายังมีหูฟังที่เกาะสลักมาจากไม้หรือนั่งอาคารที่ทำเหมือนหอคอยสังเกตการณ์ด้วย ปัจจุบันพิธีกรรมที่ว่ายังคงอยู่ในหมู่ชาวเกาะนี้ไม่เสื่อมคลาย และแล้ว Cargo cult ก็ได้กลายเป็นคำศัพท์ที่แปลว่า ค่านิยมเชิงวัตถุไป





7.Chen Tao

เฉินเต่า หรือ "True Way" เป็นลัทธิที่เชื่อเรื่องยูเอฟโอที่ก่อตั้งในไต้หวัน โดย ฮอน-หมิงเฉิน(เกิด 1955) เป็นอดีตอาจารย์ที่เอาเรื่องพระเจ้า, ศาสนาพุทธ, เต๋า, จานบินผสมกับข้อมูลหลอกลวงทางวิทยาศาสตร์และจักรวาลวิทยาแบบผิดๆ อ้างว่าเขาได้พบพระเจ้าในปี 1992 เชื่อว่าโลกจะกลับไปสู่ยุคไดโนเสาร์(มุกประจำ) ทางเดียวที่มนุษย์จะรอดได้ก็คือการอาศัยอยู่ทวีปอเมริกาเหนือเพื่อรับความช่วยเหลือจากพระเจ้าจากจานบินและเชื่อว่าอายุจักรวาลคือ 4500000000000 ปี ระบบสุริยจักรวาลจะถูกสร้างขึ้นโดยสงครามนิวเคลียร์

ลัทธินี้เป็นที่รู้จักกันดีเป็นอย่างมากในชาวไต้หวัน(จดทะเบียนเป็นสมาคมวิจัยและย้ายไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา) และล้มเหลวในปี 1998 เนื่องจากคำพยากรณ์ผิดพลาด เพราะเขาคาดการณ์ว่า เวลา 0.01 เมื่อ 25 มีนาคม 1998 “พระเจ้าจะปรากฏช่อง 18 ที่อเมริกาเหนือแต่เอาเข้าจริงพระเจ้าก็ไม่ปรากฏช่องดังกล่าว ทำให้ลัทธินี้เสื่อมความนิยมสาวกหลายคนออกจากลัทธินี้เพื่อกลับไต้หวัน แต่กระนั้นลัทธินี้ยังคงอยู่พร้อมด้วยความเชื่อใหม่ว่าจีนและไต้หวันจะทำสงครามกันจนนำไปสู่หายนะนิวเคลียร์ แต่กระนั้นหลังปี 2001 ที่อยู่ปัจจุบันของศาสดาลัทธินี้ไม่ปรากฏ





6.Scientology

แอล. รอน ฮับบาร์ด(1911-1986) นักวิทยาศาสตร์และ นักประพันธ์นิยายชาวอเมริกัน บัญญัติขึ้นเมื่อปี 1952 เพื่อใช้เป็นปรัชญาในการบำเพ็ญตน โดยมีฐานใหญ่ในนิวเจอร์ซีและลอสแองเจลิสสหรัฐอเมริกา โดยคำสอนคือเราสามารถหลุดพ้นและรู้แจ้งโดยใช้หลักการวิทยาศาสตร์ โดยอธิบายเป็นหลักการว่าความเจ็บป่วยทางกายและใจล้วนมาจากเรื่องโศกเศร้าในอดีตซึ่งสามารถบำบัดกายและใจนี้ได้โดยวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า “วิธีวิทยา” โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่ย E-Metre g8injv’mujเป็นตัววัดว่าจิตประสาทของเราตอนนี้เป็นอย่างไร ศาสนานี้ประสบความสำเร็จในอเมริกาและอ้างว่าสาวกทั่วโลก(รวมทั้งไทย)กว่า 8 ล้านคนนอกจากนี้ยังมีดาราดังเป็นสาวกด้วยอย่างทอม ครูซและจอน ทราโวลต้า ดาราในวงการบันเทิงมากมากมาย แต่กระนั้นก็มีข่าวลือว่าลัทธินี้ใช้วิธีการล้างสมอง,โกงเงิน ส่งผลทำให้ลัทธินี้มีคนต่อต้านในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน ฝรั่งเศส


ทอมคุ้ยเป็นScientology







5.Raëlians

เรลีอังส์ หรือ "ราเอเลียน มูฟเมนต์" เป็นลัทธิยูเอฟโอที่ก่อตั้งในปี 1974 โดย Claude Vorilhon หรือเป็นที่รู้จักกันว่าชื่อ “เรเอล” เขาอ้างว่ามนุษย์โลก(ชีวิตบนโลก)ของเรานั้นเกิดจากการโคลนของมนุษย์ต่างดาวและมนุษย์ต่างดาวยังคงติดต่อกับโคลนของพวกเขาอยู่ทำให้เราถูกเข้าใจผิดว่ามนุษย์ต่างดาวคือพระเข้าหรือเทวดา อีกทั้งยังอ้างว่าได้รับการบันทึกว่าเป็นลัทธิยูเอฟโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสมาชิกทั่วโลกกว่า 6.5 หมื่นคน โดยญี่ปุ่นมีสมาชิกมากที่สุด(โดยมีสำนักงานใหญ่ที่เจนีวาสวิส) และตอนนี้ก็เริ่มเผยแพร่ในประเทศไทยและถูกจับตาอย่างใกล้ชิด

ราเอเลียนมีเน้นคำสอนเน้นความคิดทางโลกและลัทธิสุข-บริโภคนิยม มากกว่าบูชาพระเจ้า มีความเชื่อว่าทุกอย่างประกอบด้วยคุณสมบัติทางกายภาพเท่านั้น และปฏิเสธการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณ ซึ่งลัทธินี้มีกิจกรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น มีเสรีทางเพศ การสนับสนุนการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง, ถุงยางอนามัย การควบคุมการเกิด ลัทธิหวังว่าอาหารดัดแปลงพันธ์กรรมและนาโนเทคโนโลยีจะช่วยให้มนุษย์ลดภาระหน้าที่การทำงาน ต่อต้านองค์กรที่มีภารกิจคือการทำหมันผู้หญิง มีการจัดสัมมนาและพิธีกรรมแปลกๆ มากมาย

Claude Vorilhon เจ้าลัทธิ






4.Nation of Yahweh

ลัทธิประเทศยะฮ์เวห์ เป็นกลุ่มลัทธิที่ก่อตั้งในปี 1979 ในไมอามี่ โดยยะฮ์เวห์ เบน ยะฮ์เวห์(Yahweh Ben Yahweh) แตกหน่อจากแบล็คฮิบรูของอิสราเอล เป้าหมายคือกำหราบชนผิวขาว และกล่าวว่า คนผิวดำ “คือชาวยิวที่แท้จริง คนผิวขาวคือ “ปีศาจสีขาว” และอ้างว่าพระเจ้าและศาสนดาทุกศาสนามีผิวดำและคนดำสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านเขา และจงรักภักดีต่อตนเองที่เป็นบุตรองพระเจ้ายะฮ์เวห์ โดยลัทธินี้ได้สร้างชุมชนของชาวผิวดำในไมอามี่ เขาได้เป็นที่เคารพในชุมชนถึงขั้นประกาศวันที่ 7 ตุลาคม 1990 เป็นวัน ยะฮ์เวห์ เบน ยะฮ์เวห์เดย์ แต่กระนั้นลัทธินี้ถูกต่อต้านจากหลายฝ่าย เนื่องจากใช้ความยากจนของผลเพื่อผลประโยชน์ และแบ่งแยกเชื้อชาติ ในช่วงปี 1990 เขาถูกต้องข้อหาสมรู้ร่วมคิดคดีฆาตกรรม แม้ว่าจะรอดพ้นกฎหมายแต่เขาถูกสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกับชุมชนและห้ามสื่อสารกับสังคมภายนอกใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั้งเขาได้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2007 ทำให้กลุ่มนี้แตกแยกและกระจัดกระจายไปทั่วอเมริกาในที่สุด





3.NeoNazi

ลัทธินีโอนาซี เป็นลัทธิที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแสวงหาการฟื้นฟู นาซีนิยม เกิดขึ้นอีกครั้งเพราะพวกเขาเชื่อว่า “คนขาวที่เป็นเยอรมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีที่สุด” พวกนีโอนาซีมักจะโกนหัว ไว้ทรงผมสกินเฮด คล้ายพังค์ สักลายสวัสดิกะ หรือ สัญลักษณ์นาซีไว้ที่ตัว

นโยบายของลัทธินีโอนาซีมีความแตกต่างกันไปจากลัทธินาซีเดิม แต่กระนั้นเนื้อหาโดยรวมยังเหมือนเดิม พวกเขาจะสวามิภักดิ์ต่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ,เหยียดเชื้อชาติต่างๆ,เหยียดสีผิว,เทิดทูนคนอารยันเยอรมัน,เหยียดเกย์ เยียดยิว สลาฟ อังกฤษ ฯลฯ โดยปัจจุบันสมาชิกลัทธินี้มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งส่วนมากเป็นยุโรป พบมากในแถวชายแดนระหว่างประเทศที่ติดกับเยอรมัน โดยเฉพาะในรัสเซียพบมากที่สุดใน กรุงมอสโก เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของบุคคลกลุ่มนี้ได้แก่ ยิว สลาฟ เอเชีย ตาตาร์ ยูเครน เบลารุส นิโกร ลูกครึ่ง มักถูกทำร้ายจนตาย บางประเทศในยุโรปมีกฎหมายห้ามลัทธินาซี การเหยียดผิว และการเหยียดเชื้อชาติ

ข้อมูลจาก
http://th.wikipedia.org/wiki/นีโอนาซี




2.The Church of Euthanasia

คริสตจักรการุณฆาต(ย่อจาก COE) เป็นลัทธิก่อตั้งโดย Chris Korda ในบอสตัน แมนซาซูเซต ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยตั้งเป็นเว็บไซต์คือไม่หวังผลกำไร หลักคำสอนลัทธินี้คือส่งเสริมการฆ่าตัวตาย สังวาสผิดธรรมชาติ และกินคน(กินคนที่ตายไปแล้ว) แต่กระนั้นหลักคำสอนนี้ถูกจำกัดด้วยข้อห้ามต่างๆ คือต้องลดประชากรโดยวิธีสมัครใจเท่านั้น ห้ามฆาตกรรม ข่มขืน หรือห้ามฆ่าโดยไม่สมัครใจเด็ดขาด ลัทธิแห่งนี้ได้รับความสนใจในปี 1995 เนื่องจากเป็นพันธมิตรกับ paranoia.com โดยในเว็บมีคำแนะนำวิธีการฆ่าตัวตายโดยการทำให้สลบด้วยก๊าซฮีเลียม แต่กระนั้นหน้านี้ถูกตัดออกในปี 2003 หลังจากผู้หญิงอายุ 52 ปีคนหนึ่งฆ่าตัวตายในเซนต์หลุยส์ ส่งผลทำให้ลัทธินี้ผิดกฎหมายดังกล่าว และวันที่ 11 กันยายน 2001 เหตุการณ์ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถูกถล่ม ก็มีการทำเพลงวีดีโอล้อเลียนในชื่อ “ฉันชอบมองดู” โดยภาพตัดต่อให้การตายเหมือนเป็นเรื่องตลก

ภาพประจํํํํํํํํํํํํํํํํําลัทธิ จาก
http://www.churchofeuthanasia.org/ เวปทางการของลัทธินี้



1.Ku Klux Klan หรือ KKK (Ku Klux มาจาก Kyklos ในภาษากรีก แปลว่า circle ส่วน Klan มาจาก Clan ซึ่งแปลว่ากลุ่มคน) เป็นชื่อของ องค์กรบูชาชาติพันธุ์ฝรั่งผิวขาวอย่างสุดโต่ง ต่อต้านเชื้อชาติอื่นๆ ศาสนาอื่นๆ โดยเฉพาะชาว African American และ ชาวยิว ที่มีอิทธิพลในสหรัฐอเมริกามาร่วมศตวรรษ มักจะใช้ความรุนแรงในการจัดการ เพื่อจุดประสงค์สูงสุดในการบูชาเผ่าพันธุ์ผิวขาวของตนเอง..

ปี 1865 หลัง จากสงครามเหนืใต้ในอเมริกาซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายเหนือ ทำให้ทาสคนผิวดำได้รับการปลดปล่อยและเกิดการยอมรับในสิทธิ์ประชาชนของคนผิว ดำว่าเท่าเทียมกับคนผิวขาว ส่วนหนึ่งของอดีตกองทหารฝ่ายใต้ซึ่งไม่พอใจต่อเหตุการณดังกล่าวได้รวมตัวกัน ขึ้นเพื่อสร้างสังคมซึ่งให้สิทธิ์พิเศษแก่คนผิวขาวขึ้นมาอีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคมซึ่งนี่ก็คือจุดเริ่มต้นขององค์การคนผิวขาว KKK หรือ คูคลั๊กซ์คลัน นี่เอง

ปี 1867 หลังงานชุมนุมซึ่งจัดในฤดูร้อนที่แนชวิล จำนวนสมาชิกของ KKK ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งที่นี่เองที่ KKK ถูกสร้างเป็นองค์กรอย่างเป็นทางการโดยมีเนลสัน เบดฟอร์ด ฟอร์เรสต์เป็นแกรนด์วิซาร์ด

KKK ในช่วงแรกยังไม่มีการก่อความรุนแรงอะไรมากมาย เป้าหมายของพวกเขาเป็นเพียงการแสดงอำนาจให้คนผิวดำเห็นว่าตัวเองเป็นฝ่าย เหนือกว่าเสียมากกว่า คนผิวดำซึ่งเพิ่งได้รับอิสรภาพมาหมาดๆในยุคนั้นยังด้อยความรู้และมีความงม งายอยู่มาก การข่มขู่ให้พวกเขาหวาดกลัวจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแต่สมาชิกของ KKK ใส่ ชุดขาวมีหมวกคลุมศีรษะซึ่งเปิดให้เห็นแต่ตากับปากแล้วถือคบเพลิงเดินขบวนไป ตามถนนในตอนกลางคืน เท่านี้เหล่าคนผิวดำก็พากันผวานึกว่าเป็นผี และไม่กล้าออกจากบ้านไปในยามค่ำคืนแล้ว

หากในไม่ช้า การเคลื่อนไหวของ KKK ก็ ค่อยๆเพิ่มความรุนแรงขึ้น มีการรุมทำร้าย เผาบ้านและปล้นคนผิวสี พวกเขาใส่ชุดขาวเดินสำรวจไปทั่วเมือง เมื่อพบคนผิวดำออกมาเดินนอกบ้านนอกเวลาที่พวกเขากำหนด ก็จะลากมาเฆี่ยน ทั้งยังทำร้ายคนผิวดำที่ใช้สิทธิ์ของตัวเองหรือแม้แต่คนผิวขาวด้วยกันที่ แสดงการสนับสนุนคนผิวดำ ซึ่งในบางครั้งการทำร้ายนี้รุนแรงไปจนกลายเป็นการแขวนคอก็มี

ปี 1871 รัฐบาลประกาศให้ KKK เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายนอกกฏหมายซึ่งมีอันตรายต่อระบอบการปกครอง และทำการกวาดล้างให้ KKK ต้องแยกตัวไป หากนั่นก็เป็นเพียงชั่วคราว......





ปี 1901 บาทหลวงของศาสนาคริสต์ลัทธิเมโซดิสต์ วิล ซิมอนส์ (20) อ้างว่าได้ยินเสียงพระเจ้าในความฝันให้ฟื้นฟู KKK ขึ้นอีกครั้ง ซิมอนส์ซึ่งเดิมมีแนวคิดนิยมคนผิวขาวอยู่แล้วจึงรวบรวมคน 34 คนและประกาศการก่อตั้ง KKK ขึ้นใหม่ พวกซิมอนส์ยึดหลักแบ่งชนชาติอย่างรุนแรงและมีเจตนารมณ์จะขจัดคนเชื้อชาติอื่นออกไปจากอเมริกาให้หมด

ในขณะนั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 เพิ่งจะจบไป สังคมกำลังอยู่ในสภาวะไม่แน่นอน คนที่ไม่มีที่พึ่งมากมายเข้ามาเอา KKK เป็นที่ยึดเหนี่ยวทำให้จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปี 1922 เฉพาะที่เท็กซัสก็มีคดีทำร้ายร่างกายกว่า 100 คดีที่เกี่ยวข้องกับ KKK
ปี 1923 เกิดคดีรุมทำร้ายที่โอกราโฮม่ากว่า 2300 คดี

ในบรรดาวิธีการรุมทำร้าย ซึ่งเป็นการเอาผู้เคราะห์ร้ายมาราดน้ำมันดินจนท่วมแล้วจับคลุกขนนกให้ติดทั่วตัว ก่อนจะแห่ไปตามถนน บาง ครั้งรุนแรงถึงกับใช้น้ำกรดเพื่อประทับสัญลักษณ์ของพวกตนลงบนร่างของผู้ เคราะห์ร้าย บ้างก็ตัดแขนขา บ้างก็เอายางรถยนต์ห้อยคอผู้เคราะห์ร้ายแล้วจุดไฟ บ้างก็จับมัดไปวางให้รถไฟทับ บ้างก็จับแขวนคอ

แน่นอนว่าสังคมก็ไม่ได้อยู่เฉย มีการประท้วงความรุนแรงซึ่ง KKK ก่อโดยสื่อมวลชนและองค์กรต่างๆ ประกอบกับการแก่งแย่งกันเองภายใน KKK ทำให้ซิมอนส์ถูกขับออกจากตำแหน่งผู้นำในปี 1923และโดยคดียักยอกเงินกว่าหนึ่งล้านดอลล่าร์สหรัฐ KKK ก็สูญเสียการสนับสนุนจากประชาชนในที่สุด

การก่อตั้ง FBI ทำให้ KKK อ่อนแอ ลงเรื่อยๆ หากองค์กรนี้ก็ไม่หมดลมหายใจไปง่ายๆ ในรัฐอลาบาม่า จอร์เจีย มิสซิสซิปปี้ และอีกหลายรัฐ ยังมีคดีทำร้ายคนผิวดำเกิดขึ้นเป็นระยะ เป็นต้นว่า

ปี 1964 รัฐมิสซิสซิปปี้ เกิดคดีผู้ใช้แรงงาน 3 คนถูก KKK รุมทำร้าย คนผิวขาว 19 คนถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัย หากก็ถูกปล่อยตัวไปเนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ
3 ปีให้หลัง 18 คนถูกนำตัวขึ้นศาลอีกครั้ง ในจำนวนนี้ 3 คนถูกรุมประชาทัณฑ์ก่อนจะถูกยิงและฝังในเขื่อน อีก 15 คนที่เหลือ 7 คนถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง หากก็ถูกปล่อยตัวหลังจากชำระเงินประกันตัว

จนบัดนี้ KKK ก็ยังซ่อนตัวอยู่ในสังคมคนผิวขาวและรอเวลาที่จะกลับมาอีกครั้ง

ที่มา http://www.toptenz.net/top-10-cults.php
http://www.thescene.com.au/Trash/Oddities/TOP-10-CULTS/
http://www.oddee.com/item_90977.aspx
http://listverse.com/2007/09/15/top-10-cults/
http://www.livescience.com/strangenews/top-10-crazy-cults.html
แปลไทยโดย cammy 60%http://writer.dek-d.com/cammy/writer/viewlongc.php?id=486572&chapter=275
http://writer.dek-d.com/cammy/writer/viewlongc.php?id=486572&chapter=276
http://61.47.61.37/board/view.php?id=1958392
http://ohx3.exteen.com/20061116/kkk/page/2
หนังสือแปลก
ภาพจาก :
http://cultstories.com/?tag=restoration-of-the-10-commandments
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pcgamezip&month=29-04-2008&group=8&gblog=1
สําหรับผู้สนใจเพิ่มเติมhttp://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9994481/X9994481.html
http://roswell.fortunecity.com/seance/500/killers/family.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Jeffrey_Lundgren
http://en.wikipedia.org/wiki/Movement_for_the_Restoration_of_the_Ten_Commandments_of_God
http://en.wikipedia.org/wiki/Neo-Nazism
http://en.wikipedia.org/wiki/Ku_Klux_Klan
http://en.wikipedia.org/wiki/Charles_Manson
http://en.wikipedia.org/wiki/Shoko_Asahara
http://en.wikipedia.org/wiki/Heaven%27s_Gate_%28religious_group%29
http://en.wikipedia.org/wiki/Branch_Davidian
http://en.wikipedia.org/wiki/Peoples_Temple




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น